
เวลาที่เรารู้สึกกังวล หรือเครียด เช่นก่อนการสอบ หรือพรีเซนต์งานสำคัญมักจะรู้สึกมวน ๆ ท้อง หรือบางคนอาจรู้สึกไม่สบายท้อง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ความเครียด ความกังวล และวิตกกังวลเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการไม่สบายท้องและอาการอื่นๆ ของระบบทางเดินอาหาร โดยปกติจะเป็นอาการชั่วคราวและไม่ร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ความเครียดและความวิตกกังวลเรื้อรังอาจส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร และอาจนำไปสู่ปัญหากระเพาะอาหารที่ร้ายแรงและระยะยาวได้
ทำไมความเครียดถึงทำให้ปวดท้องและไม่สบายตัว?
การวิจัยพบว่าสมองและระบบย่อยอาหารของเราเชื่อมโยงกันผ่านทางระบบประสาทส่วนกลาง
ส่วนหนึ่งของระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในระบบทางเดินอาหาร เรียกว่าระบบประสาทลำไส้ ทำหน้าที่เชื่อมต่อโดยตรงระหว่างสมองและระบบทางเดินอาหาร ทำให้เวลาที่เราเครียดระบบลำไส้จึงทำงานผิดปกติ
สมองและลำไส้เชื่อมโยงกันอย่างไร?

เมื่อเราเกิดความวิตกกังวลและความเครียด ฮอร์โมนและสารสื่อประสาทจะถูกปล่อยออกมาในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อลำไส้และกระเพาะอาหารในการบีบตัวและเคลื่อนย้ายของเสียไปยังร่างกาย นอกจากนี้ ความเครียดยังส่งผลต่อสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน
อาการปวดท้องจากความเครียดนานแค่ไหนถือว่าอันตราย
โดยปกติไม่ควรเกินสองสามชั่วโมงและควรหายไปเมื่อสถานการณ์ตึงเครียดจบลง หากอาการปวดท้องกินเวลานานกว่าหนึ่งวัน อาจเป็นเพราะสาเหตุที่รุนแรงมากกว่า จึงควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
วิธีบรรเทาอาการปวดท้องและวิธีช่วยลดความเครียดที่จะส่งผลต่ออาการปวดท้อง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด อาหารมันๆ หรือของทอด อาหารขยะ และอะไรก็ตามที่มีน้ำตาลธรรมชาติหรือน้ำตาลเทียมจำนวนมาก เช่น ซีเรียลที่มีน้ำตาล ของหวาน และน้ำอัดลม ควรรับประทานอาหารที่มีรสชาติอ่อน เช่นซุป ข้าวต้ม และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจนกว่าอาการจะดีขึ้น
วิธีลดความเครียด
ขยับตัวบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานาน
หายใจเข้าลึกๆ สักสองสามครั้ง
เมื่อทำกิจกรรมที่ตึงเครียด ให้หยุดพักสั้นๆ
นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง
ทานอาหารเพื่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงอาหารขยะ
จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์
เข้าสังคมและหัวเราะให้มากขึ้น
ใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น
ทำสมาธิ
พูดคุยกับนักบำบัดหรือจิตแพทย์
หากเครียดหรือวิตกกังวลบ่อย ๆ จนส่งผลต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกาย ควรพูดคุยกับนักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต หรือจิตแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Doctor Anywhere ได้แล้ววันนี้...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์อย่างเป็นส่วนตัวได้
สำหรับการปรึกษาจิตแพทย์
สำหรับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
Comments