เปลี่ยนคุณให้เป็นมนุษย์ออฟฟิศที่เฮลธ์ตี้ด้วย 5 วิธีง่าย ๆ
ชีวิตของมนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมนาน ๆ 8-9 ชั่วโมง ไม่ค่อยได้ขยับไปไหน หลาย ๆ ท่านอาจไม่ได้ใส่ใจในเรื่องการกิน เน้นหากินง่าย สะดวกต่อตัวเอง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารทอดต่าง ๆ ซึ่งหากท่านไม่ดูแลและวางแผนการกินไปเรื่อย ๆ อาจมีโรคร้ายตามมาในอนาคต เช่น โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, คอเลสเตอรอลสูง, โรคความดันโลหิตสูง, หรือโรคกระดูกพรุน เป็นต้น บทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธีในการดูแลการกินให้สุขภาพดีแม้จะนั่งทำงานออฟฟิศตลอดทั้งวัน
1. แบ่งเวลาเพื่อเตรียมมื้อเช้าด้วยตัวเอง
มนุษย์ออฟฟิศหลาย ๆ ท่าน มักจะละเลยอาหารมื้อเช้าไป ไม่ว่าจะด้วยเวลาที่จำกัด หรือใด ๆ ก็ตาม แต่เชื่อว่าหลายท่านรู้อยู่แล้วว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ ช่วยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น การซื้อข้าวกล่องที่ขายตามแนวรถไฟฟ้า หรือตลาดนัดใกล้ ๆ ออฟฟิศตอนเช้า อาจจะสะดวกแต่ไม่ค่อยเฮลธ์ตี้เท่าไหร่
▶ เมนูอาหารสุขภาพดีง่าย ๆ ที่สามารถเตรียมได้เอง ได้แก่ ไข่ต้ม, ขนมปังโฮลวีต, นมจืด, นมถั่วเหลือง, กล้วย, ถั่ว, หรืออกไก่สำเร็จรูปพร้อมทาน เป็นต้น หรือหากไม่มีเวลาจัดเตรียมอาหารด้วยตัวเองอาจซื้อเป็นพวกสลัดโรล หรือข้าวกล่องคลีน ๆ แทน ซึ่งในปัจจุบันมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพจำหน่ายหลากหลายมากขึ้น
2. กินอาหารว่างระหว่างวัน
หลายคนอาจคิดว่าอาหารว่างเป็นมื้อที่ไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้อ้วนขึ้นได้ แต่ความจริงแล้วอาหารว่างเป็นมื้อสำคัญที่จะช่วยเพิ่มกระบวนการเผลาผลาญ (metabolism) ให้ร่างกาย และเพิ่มพลังงานให้คุณทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ไม่หิวโหยระหว่างทำงาน โดยอาหารว่างควรมีสองมื้อด้วยกันระหว่างมื้อกลางวันและมื้อเย็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกิน ชานมไข่มุก, ขนมปังโดนัท, หรือครัวซองต์ เป็นอาหารว่างนะ ควรเลือกกินของที่มีประโยชน์
▶ อาหารว่างที่แนะนำ ได้แก่ ผลไม้สด, ผลไม้อบแห้ง, ถั่วต่าง ๆ, นมจืด, โยเกิร์ต, หรือจะเป็นขนมธัญพืชอบกรอบ/ธัญพืชอัดแท่ง ก็ได้ มีให้เลือกมากมายตามร้านสะดวกซื้อ ถ้าอยากเพิ่มความอร่อยและสดชื่นแนะนำผลไม้ปลอกใส่กล่องแช่เย็นไว้กินรองท้องระหว่างทำงาน เพิ่มเอเนอร์จี้ให้ร่างกาย
3. มื้อกลางวันสารอาหารต้องหลากหลาย
ไม่ว่าจะยุ่งกับงานแค่ไหนก็ตาม ควรแบ่งเวลาออกมากินข้าวกลางวันให้ตรงเวลา หลายท่านอาจเคยชินกับการกินข้าวขาหมู, ข้าวมันไก่, หรือไก่ทอด/หมูทอด รวมทั้งอาหารทอดน้ำมันเยิ้มอื่น ๆ เพราะหาทานได้ง่ายตามร้านหรือตามข้างทาง แต่ทางที่ดีควรเลือกกินอาหารคลีน ๆ และสารอาหารหลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
▶ อาหารกลางวันที่แนะนำ ได้แก่อาหารคลีน ๆ อย่างอาหารต้ม, ปิ้ง, หรือย่าง แทน เน้นเป็นปลาหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยไม่ต้องลืมผักใบเขียวในมื้ออาหาร หรือแม้แต่โยเกิร์ตเพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว และขนมปังโฮลวีตแทนขนมปังขาว
4. เปลี่ยนจากชา/กาแฟ เป็นน้ำหมักผลไม้
เครื่องดื่มคู่ใจของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศคงหนีไม่พ้นชา, กาแฟ, หรือเครื่องดื่มหวาน ๆ อย่างชานมไข่มุก แต่รู้หรือไม่ว่าเวลาที่เราดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและยังปิดกั้นการดูดซึมของธาตุเหล็ก นอกจากนี้การบริโภคคาเฟอีนมาก ๆ ทำให้เกิดนิ่วในไต
▶ ข้อแนะนำ ลดปริมาณชาและกาแฟต่อวันลง จาก 3 แก้วต่อวัน เหลือ 1-2 แก้วต่อวัน เปลี่ยนมาทำน้ำหมักผลไม้ดื่มเอง (Infused Water) โดยการแช่ผลไม้ที่ชอบลงในเหยือกน้ำเปล่า เช่น มะนาว, แอปเปิ้ล, สับประรด, ทับทิม, ส้ม, กีวี่, หรือผักต่าง ๆ ได้ทั้งความสดชื่นและรับวิตามินต่าง ๆ จากผักและผลไม้
5. ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เพิ่มการเผลาผลาญที่ดี
หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินประโยคนี้รอบที่แปดหมื่นแล้วว่าการดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ถึงแม้จะรู้อย่างนั้น เราก็อาจจะเผลอละเลยการดื่มน้ำเปล่าในแต่ละวันไป การดื่มน้ำเปล่าให้พอต่อวันจะช่วยเพิ่มระบบการเผลาผลาญให้ร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย
▶ เพิ่มการดื่มน้ำเปล่าให้สดชื่น ดื่มง่ายขึ้น ด้วยการบีบมะนาวลงไปเพิ่มรสชาติและความตื่นเต้นให้กับร่างกาย ปริมาณการดื่มน้ำที่แนะนำต่อวันคือ 2.5 - 3 ลิตร หรือเท่ากับน้ำเปล่าขวดใหญ่ 2 ขวดนั่นเอง
ปรึกษาเรื่องการกินกับนักกำหนดอาหาร
ท่านใดที่ต้องการปรึกษาด้านโภชนาการโดยนักกำหนดอาหารผู้เชี่ยวชาญ สามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้
✔ เข้าหน้าแอปเลือก 'บริการ' > 'รับคำปรึกษาทางออนไลน์' > 'ฟินอีท & ฟิตเฟิร์ม'
✔ จากค้นหานักโภชนาการที่ต้องการปรึกษา เพื่อเลือกทำการนัดหมายตามวันและเวลาที่สะดวก โดยจะนัดหมายได้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่ได้ทำการลงเวลาว่างไว้เท่านั้น
✔ ค่าบริการปรึกษาต่อครั้ง 350 บาท / 15 นาที
ทำไมถึงต้องปรึกษากับ Doctor Anywhere?
ที่ Doctor Anywhere เรามีผู้เชี่ยวชาญรองรับการให้บริการปรึกษาออนไลน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ผู้ชำนาญทั่วไป, นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต, และนักกำหนดอาหาร
ข้อดีของการปรึกษาออนไลน์บนแอป Doctor Anywhere
✔ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง รวมถึงการรอคิวต่าง ๆ
✔ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ค่ารถ/ค่าน้ำมัน/ค่าทางด่วน)
✔ สะดวกสบาย มีบริการส่งยาให้ถึงบ้าน
✔ ไม่คิดค่าใช้จ่าย หากแพทย์มีความเห็นว่าโรคของคุณไม่เหมาะกับการวินิจฉัยออนไลน์
✔ บริการหลากหลายทั้ง ปรึกษาโรคทั่วไป, สุขภาพจิต, ความงาม, และโภชนาการ
ที่มา:
https://www.dailysabah.com/health/2018/01/17/five-steps-to-healthy-eating-at-the-office
https://www.sanook.com/women/65319/
Comments