เคล็ดลับฉบับพ่อแม่ยุคใหม่ เลี้ยงลูกอย่างไรให้สุขภาพดีทั้งกายใจ
- Bhawna Bijlani
- 8 ม.ค. 2565
- ยาว 1 นาที

แน่นอนว่าสำหรับพ่อแม่แล้ว คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เห็นลูกๆ เป็นเด็กสดใส มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง แต่ในปัจจุบัน ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคภัย มลภาวะ สภาพแวดล้อม ไปจนถึงปัจจัยด้านสังคม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กๆ ยุคนี้มากขึ้น จึงถือเป็นความท้าทายของพ่อแม่ยุคใหม่ที่ต้องหาวิธีเลี้ยงลูกให้เหมาะสมตามช่วงวัย และเสริมสร้างสุขภาพดีที่ดีให้กับลูก

การดูแลด้านสุขภาพร่างกายของลูก
ให้ลูกได้กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
ในทุกๆ มื้อ ควรให้ลูกได้กินอาหารครบทั้ง 5 หมู่ หรืออาจเลือกส่วนผสมที่แตกต่างกันในแต่ละมื้อเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน หลีกเลี่ยงน้ำตาล เกลือ และไขมันชนิดไม่ดี เพราะในวัยของเด็กๆ จำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารที่ดี เพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย
ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนเพียงพอตามวัย
การที่เด็กๆ ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมตามวัยวันละ 8-10 ชั่วโมง จะส่งผลให้ฮอร์โมนการเจริญเติบโตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดและเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
ให้ลูกได้มีโอกาสทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ
หาเวลาให้ลูกได้เล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายในทุกๆ วัน เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เล่นกิจกรรมกลางแจ้ง จะยิ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรงมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ ตามมา
ปลูกฝังให้ลูกรักษาสุขอนามัยอยู่เสมอ
ควรปลูกฝังและกระตุ้นให้ลูกมีนิสัยรักความสะอาด ดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตัวอยู่เสมอ เช่น ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ เพราะความสะอาดเป็นจุดเริ่มต้นการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี และพ่อแม่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงผลร้ายที่จะตามมาหากไม่ดูแลรักษาความสะอาด
ส่งเสริมให้ลูกได้รับภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ
นอกจากภูมิคุ้มกันจากสารอาหารและการออกกำลังกายแล้ว การปล่อยให้ลูกได้รับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติถือเป็นการเสริมเกราะป้องกันได้ดีอีกทางหนึ่ง ลองให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สัมผัสธรรมชาติ เช่น วิ่งเล่นบนสนามหญ้า เล่นดิน เล่นทราย เล่นน้ำทะเล แทนการเล่นของเล่นหรือคอมพิวเตอร์ นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ลูกได้รับภูมิคุ้มกันมากขึ้นด้วย

การดูแลด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม ของลูก
ปล่อยให้ลูกมีอิสระ และได้เป็นตัวของตัวเอง
หมั่นสังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูก และต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กในแต่ละวัย ควรปล่อยให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวเองอย่างเหมาะสม เปิดโอกาสให้ลูกได้คิด ได้ทำ และตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยพ่อแม่เพียงแค่คอยดูอยู่ห่างๆ และแนะนำในสิ่งที่เหมาะสม
ใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวให้มากที่สุด
หาเวลาใช้ร่วมกับคนในครอบครัวให้มากที่สุด หมั่นแสดงความรัก ความเข้าใจ และหากิจกรรมทำร่วมกันบ่อยๆ จะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกว่าครอบครัวคือความอบอุ่นและความสบายใจ
พาลูกออกไปเจอสังคมที่หลากหลาย และสถานที่ใหม่ๆ
หาโอกาสให้ลูกได้ออกไปเจอผู้คนและสถานที่ใหม่ๆ ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าโลกนี้มีความหลากหลายและแตกต่างกัน โดยพ่อแม่ต้องให้คำแนะนำที่ดีถึงการวางตัวเมื่อต้องเข้าสังคม และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้
หลีกเลี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดภายในบ้าน
เมื่อต้องอยู่บ้านกับลูก พ่อแม่ต้องพยายามมอบพลังบวกให้กันอยู่เสมอ เลือกใช้คำพูดที่ดี เลี่ยงการเอาพลังลบและความรู้สึกแย่ๆ เข้าบ้าน และที่สำคัญ พ่อแม่ห้ามมีปัญหากันต่อหน้าลูกเด็ดขาด เพราะเด็กๆ อยู่ในวัยที่สดใสและมีสุขภาพจิตเป็นบวก ไม่ควรต้องเจอกับสถานการณ์ตึงเครียดหรือกดดัน
สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกบ่อยๆ
สร้างแรงบันดาลใจจากการเล่าเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องของคนที่ทำความดี เรื่องราวต่างๆ จากนิทาน หรือเรื่องจากประสบการณ์ตรงที่พ่อแม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกได้ เพื่อกระตุ้นความคิด ความรู้สึกแง่บวก และเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกเป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้น
บริการสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่! เพียงดาวน์โหลดแอป Doctor Anywhere
สามารถรับคำแนะนำและปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก จากกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทุกที่ ทุกเวลา
ในราคาพิเศษ
Comments