top of page

รับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ผ่านแอปได้ทันที เมื่อมี 'ปัญหาสุขภาพช่องปาก'



การดูแล ‘สุขภาพช่องปาก’ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งที่จริงๆ แล้วสุขภาพช่องปากมีผลต่อสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก นอกจากจะส่งผลต่อการรับประทานอาหารแล้ว ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้อีกด้วย เช่นโรคเส้นเลือดหัวใจ เพราะเชื้อโรคในช่องปากสามารถเข้าสู่กระแสเลือดผ่านหลอดเลือดแดง ส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งได้ หรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เพราะเชื้อโรคในช่องปากสามารถลงไปในหลอดลมและปอด ส่งผลให้ปอดอักเสบได้ เป็นต้น




ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อยในคนทั่วไป

  • ปัญหาฟันเหลืองจากคราบบุหรี่ ชา กาแฟ: เกิดจากพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต

  • ปัญหาฟันผุ: เกิดจากการละเลยการแปรงฟันหรือแปรงฟันไม่ทั่วถึง

  • ปัญหากลิ่นปาก: เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบอวัยวะทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร

  • ปัญหาฟันแตกหัก: เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การใช้ฟันกัดแทะของแข็ง การนอนกัดฟัน อุบัติเหตุต่างๆ

  • ปัญหาคราบหินปูนและเหงือกอักเสบ: เกิดจากการดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีพอ เกิดการสะสมของเชื้อจุลินทรีย์จนกลายเป็นคราบหินปูนซึ่งมีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเหงือกได้



พฤติกรรมอะไรบ้าง? ที่ทำร้ายสุขภาพช่องปากและฟัน

  • แปรงฟันแรงเพราะคิดว่าจะยิ่งสะอาด ทำให้สารเคลือบฟันถูกทำลาย เหงือกระคายเคือง เหงือกร่น และเสียวฟัน เนื่องจากเนื้อฟันถูกเปิดออก

  • ติดการใช้ไม้จิ้มฟัน หรือใช้ผิดวิธี เป็นการทำลายเนื้อเยื่อเหงือก ส่งผลให้เหงือกร่นและอักเสบได้

  • กัดหรือเคี้ยวน้ำแข็งบ่อยๆ เป็นอันตรายต่อระบบประสาทในรากฟัน และอาจทำให้ฟันแตกหักได้

  • ชอบกัดฟัน ส่งผลให้เนื้อฟันสึกกร่อนเร็วขึ้น และมีปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับฟันตามมา

  • ดื่มน้ำน้อย น้ำลายจึงถูกผลิตออกมาน้อยลง ส่งผลให้ปากแห้ง และเพิ่มโอกาสฟันผุ



นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากแล้ว อีกปัจจัยที่ต้องระวังก็คือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรให้ความสำคัญและดูแลสุขภาพช่องปากเป็นพิเศษ เนื่องจากการติดเชื้อบริเวณช่องปากจะส่งผลกระทบลุกลามไปยังระบบอื่นๆ ได้ง่าย ทำให้โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้น

กลุ่มผู้ป่วยที่ควรดูแลสุขภาพช่องปากเป็นพิเศษ

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ หากมีเชื้อโรคอยู่ในช่องปาก อาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้มีโอกาสเหงือกอักเสบได้ง่ายและรุนแรงกว่าคนทั่วไป

  • ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีบริเวณใบหน้าและคอ ต่อมน้ำลายจะผลิตน้ำลายได้น้อยลง ทำให้มีโอกาสฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่ายขึ้น

  • ผู้ป่วยทางโลหิตวิทยา เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือด เม็ดเลือดขาวจะต่ำลง ภูมิต้านทานร่างกายน้อย จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

  • ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ จำเป็นต้องได้รับยากดภูมิ ทำให้ร่างกายติดเชื้อง่ายกว่าปกติราคาเพียง 450 บาทต่อครั้ง



จะเห็นได้ว่า สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงควรดูแลและป้องกันให้ดี

วิธีดูแลป้องกันปากและฟันให้แข็งแรง

  • แปรงฟันให้ถูกวิธีและสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ

  • เลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำร้ายสุขภาพช่องปากและฟัน เช่น สูบบุหรี่ ใช้แปรงแข็ง กัดแทะของแข็ง

  • หมั่นเช็กความผิดปกติภายในช่องปากของตัวเอง

  • ปรึกษาทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อรับคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมกับแต่ละคน และหากพบความผิดปกติจะได้รีบทำการรักษาได้ทันที ก่อนที่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพโดยรวม



บริการใหม่จาก Doctor Anywhere

ปรึกษาทันตแพทย์ออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านวิดีโอคอล

ราคาเพียง 450 บาท / ครั้ง

“ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและวินิจฉัยอาการผิดปกติภายในช่องปาก ตั้งแต่แผลในปาก ปัญหาการจัดฟัน นอนกัดฟัน ปวดฟัน เสียวฟัน เหงือกบวม ฟันคุด เลือดออกตามไรฟัน และปัญหาอื่นๆ”



ปรึกษาทันตแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอป Doctor Anywhere ดีอย่างไร?

  • พูดคุยปรึกษากับทันตแพทย์จากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ผ่านแอปพลิเคชัน

  • สามารถนัดหมายวัน/เวลาที่จะปรึกษาได้ล่วงหน้าตามต้องการ

  • มีบริการจัดส่งยาถึงที่ภายใน 3 ชม. หากแพทย์มีการประเมินจ่ายยา




ขั้นตอนการปรึกษาทันตแพทย์ ผ่านแอป Doctor Anywhere

  1. ดาวน์โหลด และลงทะเบียนแอป Doctor Anywhere

  2. เลือก ‘ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง’

  3. เลือก ‘ทันตแพทย์’ ทำการเลือกแพทย์ที่ต้องการจะปรึกษา

  4. ทำการนัดหมายวัน/เวลา ที่สะดวก


 





ดู 222 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page