เข้าใกล้หน้าหนาวทีไร สิ่งที่ตามมากับความเย็นของอากาศแบบนี้คงหนีไม่พ้นไข้หวัด เพราะอากาศเย็น ๆ นี่แหละที่เป็นเกราะช่วยให้ไวรัสไข้หวัดอยู่รอดและเกิดการแพร่กระจายออกไป บทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดทั่วไป เพราะสองโรคดังกล่าวมีอาการคล้ายคลึงกัน จนหลายครั้งก็ทำเอาสับสนว่าตัวเองกำลังประสบกับโรคไหนอยู่ นอกจากนี้เราจะมาดูวิธีการป้องกัน รวมถึงแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
▶ ความแตกต่างระหว่างโรคไข้หวัด vs. ไข้หวัดใหญ่
▶ ใครบ้างที่เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนในไข้หวัดใหญ่?
▶ การป้องกันโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
▶ “ฉีดวัคซีน” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุด
▶ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วงไหนดีที่สุด?
▶ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ DA Clinic
ความแตกต่างระหว่างโรคไข้หวัด vs. ไข้หวัดใหญ่
จากตารางเปรียบเทียบด้านล่างจะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยไข้หวัดจะมีไข้ไม่สูงมาก มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล บางรายอาจมีอาการไอ จาม ปวดเมื่อยตามร่างกายและอ่อนเพลียเล็กน้อย ในขณะที่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะมีไข้สูงเฉียบพลัน บางรายมีน้ำมูกไหล ไอรุนแรงจากหลอดลมอักเสบ รู้สึกปวดศรีษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง อ่อนเพลียตลอดเวลา ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้ สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างสองโรคดังกล่าว คือ ผู้ป่วยไข้หวัด โดยทั่วไปจะอาการดีขึ้นภายใน 3-4 วัน ไม่มีค่อยมีโรคแทรกซ้อนรุนแรงหากได้รับการดูแลและพักผ่อนเพียงพอ ส่วนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จะอาการดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจมีโรคแทรกซ้อนรุนแรงถึงชีวิตได้ เช่น โรคปอดอักเสบ ภาวะกล้ามเนื้ออักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เป็นต้น
ใครบ้างที่เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนในไข้หวัดใหญ่?
✔ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
✔ เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
✔ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น
✔ เด็กที่ได้รับการรักษาด้วยยาแอสไพรินเป็นเวลานาน
✔ สตรีมีครรภ์ระยะที่ 2 หรือ 3 ในช่วงที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดสูง
การป้องกันโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลล้างมือ โดยเฉพาะก่อนและหลังรับประทานอาหาร/เข้าห้องน้ำ
ไม่ควรใช้มือสัมผัสกับหน้าหากยังไม่ได้ล้างมือ
ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้ว จาน ช้อน ผ้าเช็ดตัว หรือข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัดในช่วงระบาด ได้แก่ สถานบันเทิง ร้านอาหาร รถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
“ฉีดวัคซีน” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุด
ถึงแม้ว่าคุณจะดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี พยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทุกวิถีทาง แต่วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพราะในแต่ละปีไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เสมอ เนื่องจากไวรัสดังกล่าวสามารถวิวัฒนาการเปลี่ยนสายพันธุ์ได้ตลอด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาวัคซีนทุกปีเพื่อให้สอดคล้องกับสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ในแต่ละปี โดยวัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสที่กำลังระบาดในช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 1 ปี นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรฉีดวัคซีนซ้ำในทุกปี
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วงไหนดีที่สุด?
วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดทั้งปี ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาด แต่สำหรับท่านใดที่ต้องการฉีดในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่เริ่มระบาด สามารถไปรับการฉีดวัคซีนได้ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ DA Clinic
ที่ DA Clinic เรามีบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครอบคลุมถึง 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A ชนิด H1N1 และ H3N2, สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria และ Yamagata ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้ที่สนใจรับบริการจาก DA Clinic สามารถติดตามโปรโมชันเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพรวมถึงการฉีดวัคซีนได้ที่นี่
ที่มา:
cdc.gov/flu/symptoms/coldflu.htm
https://www.thonburihospital.com/Flu_Advertorial.html
www.vichaiyut.com/th/health/ไข้หวัดใหญ่-อันตรายถึง/
Commenti